เทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต

4

เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีราคาลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีเพิ่มขึ้นทุกวัน และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็น ต่อการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ อินเทอร์เน็ต การประชุมวิดีโอทางไกล ระบบเครือข่าย และระบบสารสนเทศเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ เป็นต้น

นอกจากนี้เทคโนโลยีเหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต ดังจะเห็นได้จากเดฟ อุลริช ปรมาจารย์ทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ระบุว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการแข่งขันธุรกิจในอนาคต เช่นเดียวกันกับ คัมมิ่ง และเวอร์รี่ ผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาองค์กรและการบริหารการเปลี่ยนแปลงได้จัดให้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร

เทคโนโลยีที่ใช้กันในปัจจุบันจึงถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล การแก้ไขเปลี่ยนแปลง การเรียกดูข้อมูล การประมวลผล การใช้งานร่วมกันแบบหลายๆ คน และการวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น มีค่าใช้จ่ายต่ำลง เพิ่มคุณค่าและประโยชน์ในการใช้งานข้อมูล และสารสนเทศที่ได้มาจะมีคุณภาพในการนำไปวิเคราะห์และใช้งานมากเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันเทคโนโลยียังสามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการในการผลิตและการทำงานให้มีต้นทุนที่ต่ำลง ใช้เวลาในการทำงานที่ลดลง และได้สินค้าหรือผลลัพธ์ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรเป็นอย่างยิ่ง

ในปัจจุบันหลายๆ องค์กรให้ความสนใจกับการพัฒนาองค์กร โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร บ้างก็ยุบรวมหน่วยงาน บ้างก็แยกหน่วยงานออกมา บ้างก็ตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมาสนับสนุนและประสานงาน ซึ่งในอดีตเราอาจจะต้องมีทีมงานขึ้นมาทำหน้าที่เป็นพิเศษและต้องใช้เวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่ในปัจจุบันมีซอฟท์แวร์หลายๆ บริษัทที่พัฒนาการใช้งานในด้านของการจัดโครงสร้างองค์กรขึ้นมา โดยให้ผู้บริหารสามารถทดลองปรับเปลี่ยนองค์กรเพียงแค่คลิกเมาท์แล้วไปวางหน่วยงานที่ต้องการไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ข้อมูลต่างๆ ของหน่วยงานนั้นๆ ทั้งหมดก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปทั้งข้อมูลตำแหน่ง ข้อมูลหน่วยงาน และข้อมูลผู้บังคับบัญชาโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้บริหารสามารถประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on เทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต

แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ทำงานเป็นทีมด้วยความรักและสามัคคี

13

ความสำเร็จใครก็ต้องการ แต่ความสำเร็จจะรอพึ่งโชคชะตาหรือผู้อื่นคงไม่ได้ ตัวเราเองต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะไขว่คว้าความสำเร็จนั้นมาอยู่ในมือ ทองพันชั่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัลไคเซ็น(KAIZEN) ยอดเยี่ยม ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจัดโดยวิศวกรรมสถาน แห่งประเทศไทย ในงานประชุมวิชาการวิศวอุตสาหการแห่งชาติ 2010 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในวันที่ 16-17 ธันวาคม 2553 ในหัวข้อ เทคนิควิศวกรรมอุตสาหการ เพี่อพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน จากการที่ได้พิจารณาการนำเสนอจากทั้งหมด 26 ทีม ผมได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่เหมือนกันของสมาชิกในทุกกลุ่ม ซึ่งผมประทับใจ และคิดว่ามีประโยชน์กับผู้อ่าน ซึ่งสรุปพฤติกรรมหลักๆ ดังต่อไปนี้ พฤติกรรมที่ 1 เป็นคนช่างสังเกต โดยมักจะมองจุดเล็กจุดน้อยเพื่อนำมาปรับปรุงเสมอไม่ยอมปล่อยผ่าน แล้วนำมาเป็นหัวข้อเพื่อนำไปสู่การปรับปรุง โดยคิดว่าดีกว่านี้ได้ไหม เร็วกว่านี้ได้ไหม ประหยัดกว่านี้ได้ไหม สะดวกกว่านี้ได้ไหม ปลอดภัยกว่านี้ได้ไหม มีของเสียน้อยกว่านี้ได้ไหมเป็นต้น

แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นคนช่างสังเกตุฝึกฝนให้เป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบในการปฏิบัติงาน โดยควรหมั่นตรวจสอบเพื่อค้นหาจุดบกพร่อง จุดผิดปกติ หรือสิ่งที่น่าจะเกิดปัญหา หรือความสูญเปล่าต่าง รวมไปถึงจุดที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายพฤติกรรมที่ 2 เป็นผู้ที่มีความตั้งใจ และไม่ย่อท้อ เมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรค ก็ไม่ย่อท้อ ทำแล้วทำอีก แก้ไขแล้ว แก้ไขอีก ไม่ประสบความสำเร็จไม่เลิก ปรับปรุงให้ดีขึ้น ๆ อยู่เสมอ ไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ โดยคิดว่าวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ และวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีความตั้งใจ และไม่ย่อท้อ เพื่อฝึกทำงานภายใต้ภาวะกดดัน หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และต้องมีวิน้ยไม่ทอดทิ้งก่อนที่จะดำเนินงานให้บรรลุผลสำเร็จพฤติกรรมที่ 3 ทำงานเป็นทีมเวอร์ค ด้วยความรัก และสามัคคี เพราะต้องช่วยกันเก็บข้อมูล ช่วยกันปรับปรุง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ โดยรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆในทีม ถ้าหากทะเลาะกัน รับรอง ไม่รุ่งแน่นอน ซึ่งนี่ละครับ ไม่เพียงแต่การดำเนินกิจกรรมไคเซ็นเท่านั้น กิจกรรมอื่นๆ ก็ต้องอาศัย ความรัก ความเข้าใจ และความสามัคคี ด้วยเช่นกันครับแนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ทำงานเป็นทีมด้วยความรัก และสามัคคีต้องฝึกฝนตนเองให้เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น โดยไม่ยึดเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ ทำงานแบบเป็นพี่ๆ น้องๆ ไม่ใช้อาอารมณ์ หรือนำเรื่องส่วตัวมาปนกับเรื่องงาน มีนำใจ พร้อมช่วยเหลือ และให้อภัยเสมอเมื่อเกิดข้อผิดพลาด แล้วพร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ทำงานเป็นทีมด้วยความรักและสามัคคี

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับสูง

13

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Continual Improvement หรือเรียกย่อๆว่าCI สำหรับท่านที่ได้สัมผัสกับระบบบริหารงานคุณภาพมาไม่ว่ามากหรือน้อย จะทราบว่าเป้าหมายของการการทำระบบคือผลดำเนินงานต้องเป็นไปตามที่องค์กรตั้งวัตถุประสงค์ไว้และที่สำคัญคือต้องมีการพัฒนาทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทรัพยากรในส่วนของ software มากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นเวลา ข้อมูล knowledge การมีส่วนร่วมของคนในองค์กร แต่สิ่งที่กล่าวมามีองค์กรจำนวนมากมายที่ประสบความสำเร็จซึ่งหาดูได้ไม่ยากเลย ซึ่งขอสรุปแนวทางการพัฒนาเป็น 3 ส่วน โดยเริ่มจากวัตถุประสงค์การพัฒนา แหล่งข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนา และวิธีการพัฒนาวัตถุประสงค์การพัฒนา และเพิ่มผลผลิตภายในองค์กรขอแยกออกเป็น 5 เรื่อง 5 วิธีการ ที่แตกต่างกัน แต่มีจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกันโดยไล่เรียงตามวัตถุประสงค์ของระบบดังนี้ค่ะ

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Kaizen หรือContinuous Improvement) นวัตกรรม (Innovation) การบริหารคุณภาพที่ทุกคนมีส่วนร่วม (Total Quality Management : TQM) Six Sigma การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐาน ISO 9001 (Continual Improvement) วัตถุประสงค์ของระบบคือ การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากความพยายามอย่างต่อเนื่องค่อยเป็นค่อยไปใน เป้าหมายของ Kaizen หรือ Continuous Improvement คือ การปรับปรุงจากมาตรฐานเดิมที่มีอยู่ให้ดีขึ้น การปรับปรุงการทำงานประจำวันให้ดียิ่งขึ้น การคงสภาพผลการปรับปรุง

ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษใดๆ ใช้สามัญสำนึก ของพนักงานทุกคนในองค์การ ตั้งแต่ระดับบน จนถึงระดับล่างอาจมีการลงทุนบ้างเพียงเล็กน้อยวัตถุประสงค์ของระบบคือ การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับสูง ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล เป้าหมาย Innovation คือ เพื่อก่อให้เกิดแนวทางการทำงานแบบใหม่ เครื่องจักรแบบใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิมเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทันทีทันใดตามความต้องการของตลาดวัตถุประสงค์ขอระบบ คือ การสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ใช้วิธีการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์ทำสินค้าและบริการให้มีคุณภาพตรงกับใจของลูกค้า และสร้างความพึงพอใจ

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on การพัฒนาอย่างต่อเนื่องต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับสูง

การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

กระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกองค์กรไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ เพราะการอยู่นิ่งเฉยตลอดเวลาก็เปรียบเสมือนการปล่อยให้องค์กรค่อยๆ ล้าสมัยและเสื่อมสภาพไปพร้อมกับกาลเวลาที่ผันผ่าน

หน่วยงานหรือธุรกิจที่ก่อตั้งมาเป็นเวลานาน มักจะได้รับการยอมรับถึงวิธีการบริหารจัดการเพื่อให้ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ และถูกใช้เป็นต้นแบบในการบริหารงานขององค์กรสมัยใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ต้นแบบจากองค์กรเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเสมอไปสำหรับองค์กรรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากข่าวการล่มสลายขององค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่งในระยะเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หรือผลิตภัณฑ์เหล่านั้นค่อยๆ หายไปจากท้องตลาดจากที่เคยอยู่อันดับหนึ่งเสมอมา ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อหรือผู้ผลิตฟิล์มและกล้องถ่ายรูป ซึ่งหากมองผู้นำในปัจจุบันแล้วย้อนกลับไปสัก 5 ปี จะพบว่ามีการเปลี่ยนสลับหน้ากันมาแล้วทั้งสิ้น

สาเหตุที่ทำให้ผลิตภัณฑ์หรือองค์กรเหล่านั้นถูกแซงอันดับขึ้นไปหรือได้รับความนิยมลดน้อยลง ไม่ใช่จากสาเหตุในเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์ไม่ดี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นจากการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกได้ไม่ทัน ซึ่งองค์กรเหล่านี้มักจะมีทรัพยากรและสะสมประสบการณ์ในการผลิตสินค้าคุณภาพมาเป็นเวลานาน แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคของสังคมเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งเทคโนโลยีมีการขยับไปข้างหน้าแบบก้าวกระโดด กอปรกับคนรุ่นใหม่ก็ล้วนแล้วแต่ชื่นชอบกับการติดตามและใช้เทคโนโลยีใหม่เหล่านั้น ดังนั้นคุณภาพและประสบการณ์ที่มีอยู่อาจไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่องค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยก็คือการนำเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาผสมผสานกับผลิตภัณฑ์ของตน เพื่อตอบสนองกับความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า

การคงอยู่ขององค์กรในปัจจุบันนี้ ไม่ได้อาศัยเพียงความรู้ความสามารถและทรัพยากรต่างๆ ภายในขององค์กรเท่านั้น แต่องค์กรจะต้องมีความสามารถในการบริหารการเปลี่ยนแปลง หรือ Change Management ซึ่งคำภาษาอังกฤษสั้นๆ เพียงสองคำนี้ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญระดับโลก ที่ทุกหน่วยงานต่างให้ความสนใจ มีการศึกษาการบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ มีการทำวิจัยและศึกษาในทุกระดับ กระทั่งมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นทางด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงถึงระดับปริญญาเอก

Change Management หรือการบริหารการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เป็นทฤษฎีที่ตายตัวแบบสมการคณิตศาสตร์ แต่การบริหารการเปลี่ยนแปลงเป็นศาสตร์ในการศึกษาปัจจัยต่างๆ ขององค์กรทั้งภายในและภายนอก โดยมีเป้าหมายหลักก็คือ การปรับตัวขององค์กรให้สามารถตอบสนองเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกหรือแม้แต่ปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากภายในองค์กรเองก็ตาม

การบริหารการเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการศึกษาปัจจัยแวดล้อมภายในและภายนอกขององค์กรอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังต้องศึกษาความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กรโดยตรงด้วย อาทิ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือกระแสนิยมของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้นักวิเคราะห์หรือนักบริหารการเปลี่ยนแปลงสามารถมองเห็นภาพรวมและทิศทางซึ่งเป็นภาพใหญ่ของสังคม โดยจะต้องมีการประยุกต์และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้บริการหรือสินค้าขององค์กรเพื่อตอบกระแสความต้องการของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ให้ได้มากที่สุด

ปัจจัยด้านต่างๆ ของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกประเด็น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่สำคัญนั้นมีอยู่มากมาย เช่น ปัจจัยภายในในเรื่องโครงสร้างขององค์กรเอง หรือปัจจัยด้านกลยุทธ์หรือแนวทางการดำเนินงานของผู้บริหารในแต่ละยุค หรือหากมองด้านสภาพแวดล้อมภายนอกก็จะมีปัจจัยที่สำคัญอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านวัฒนธรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือแม้แต่ปัจจัยในเรื่องของการเมือง เป็นต้น ซึ่งนักบริหารการเปลี่ยนแปลงจะไม่สามารถทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่งไปได้เลย หากแต่จะต้องรวบรวมและจัดลำดับความสำคัญแล้วพยายามวางแนวทางการรับมือและปรับเปลี่ยนการทำงานขององค์กรให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงที่สุด

หากองค์กรมีขั้นตอนและระบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดีและรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลานั้นอาจไม่ใช้อุปสรรคในการดำเนินงานขององค์กรอีกต่อไป แต่นั่นคือโอกาสและความก้าวหน้าขององค์กร เมื่อสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าได้ตรงประเด็น ความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องไกลอีกต่อไป แต่เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว สิ่งที่จะลืมไปเสียไม่ได้ก็คือ การบริหารการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา หากหยุดเมื่อไรก็หมายความว่า องค์กรกำลังถอยหลังไปกับเวลาที่ผ่านไปด้วยนั่นเอง

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลสำหรับที่ที่ต้องปรับปรุงเว็บไซต์สู่ตลาดออนไลน์


ตลาดออนไลน์ เป็นการทำตลาดที่มีส่วนผลทางการตลาดเดิมเพียง 4 ด้าน คือ Product, Price, Place, Promotion อยู่แล้ว แต่การตลาดออนไลน์เพิ่มอีก 2 ด้าน คือ Personalization และ Privacy ทั้งนี้เพื่อเป็นการผสมผสานระหว่างการตลาดแบบเดิมที่เพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยี เกิดเป็นองค์ประกอบของตลาดแบบใหม่ สามารถทำให้ธุรกิจออนไลน์เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ช่วยให้เจ้าของกิจการประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น เกี่ยวกับสินค้า เกี่ยวกับพนักงาน และธุรกิจสามารถทำการค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีผู้ใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของธุรกิจจะต้องมีความเข้าใจในตัวสินค้าของตนเอง ช่องทางการประชาสัมพันธ์ การกำหนดเป้าหมายของธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อให้การพัฒนาสื่อตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนผสมทางการตลาดประกอบด้วย
1. ผลิตภัณฑ์ (Product)
ธุรกิจที่มีเว็บไซต์สวยงาม ตื่นตาตื่นใจ แต่ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้ ดังนั้น ผู้ผลิตควรที่จะมีการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของตนเอง ว่ารูปแบบควรเป็นลักษณะใด การใช้ประโยชน์ของสินค้า และกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ซื้อ

2. ราคา (Price)
ธุรกิจจึงควรเน้นการตั้งราคาให้เหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า หมั่นตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่แข่งใกล้เคียง โดยจะต้องคำนึงน้ำหนักของสินค้า ระยะทางการจัดส่งสินค้า จะต้องระบุราคาได้ว่าลูกค้าในแต่ละประเทศถ้ามีการซื้อสินค้าของธุรกิจเรา จะต้องซื้อในราคาเท่าไร เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้กำหนดราคา จะต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตให้รอบครอบ หรือความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะ

3. ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place)
การหาทำเลสำหรับการทำเว็บไซต์ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เปรียบเสมือนกับการตั้งชื่อร้านค้า โดยมีศัพท์ทางอินเทอร์เน็ตเรียกว่า โดเมนเนม (Domain Name) ในทางอินเทอร์เน็ตนั้นไม่มีข้อจำกัดทางกายภาพ ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการเข้าสู่ร้านค้าโดยจดจำชื่อร้าน จึงควรเลือกชื่อที่จดจำได้ง่าย หากมีโอกาสเปิดช่องทางการค้าตามวิธีปกติได้ก็ควรจะทำควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ การมีเว็บไซต์นั้น จะเป็นประโยชน์ต่อการให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ หรือมีการซื้อซ้ำได้

4. การส่งเสริมการขาย (Promotion)
การส่งเสริมการขายบนเว็บไซต์เป็นสิ่งจำ ที่เรียกว่า ป้ายโฆษณาบนเว็บไซต์ (Banner Advertising) มีลักษณะคล้ายสื่อสิ่งพิมพ์ แต่จะแสดงบนเว็บไซต์อื่น เช่น การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์โดยการลงทะเบียนในเว็บไซต์ การประมูลขายสินค้าในเว็บไซต์ การบริการหลังการขายก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสามารถ ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และอาจกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ หรืออาจบอกต่อเพื่อนๆ ให้มาใช้บริการร้านออนไลน์ของผู้ขายต่อไปได้

5. การให้บริการแบบเจาะจง (Personalization)
ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตทำให้เว็บไซต์ที่จัดทำขึ้น สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนได้ สามารถให้บริการแบบเจาะจงกับลูกค้าแต่ละรายได้ และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภท Data Mining ทำการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ในการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งการเสนอขายสินค้าแบบ Cross Sell นอกจากนี้ยังสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปพัฒนาการให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ ด้วยระบบ Call Center ได้อีกทาง

6. การรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy)
เมื่อมีการซื้อขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ซื้อต้องมีการกรอกข้อมูลส่วนตัวของตนส่งไปให้ผู้ขาย ดังนั้น ผู้ขายจะต้องรักษาความลับของข้อมูลเหล่านี้ โดยต้องไม่เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ของลูกค้าก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์จำเป็นต้องสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ว่า ข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกโจรกรรมออกไปได้ โดยผู้ขายจะต้องระบุนโยบายเกี่ยวกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า หรือ Privacy Policy ให้ชัดเจนบนเว็บไซต์ และปฏิบัติตามกฎนั้นอย่างเคร่งครัด

การทำธุรกิจออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ขยายการตลาด ใช้เวลาในการโปรโมทสินค้าได้รวดเร็ว ทำให้ลดระยะเวลาในการโปรโมท เข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ใกล้หรือไกล และที่สำคัญที่สุดประหยัดค่าใช้จ่ายในการโปรโมทเมื่อเปรียบเทียบกับสื่อต่างๆ นำการตลาดออนไลน์ไปใช้ ในธุรกิจของคุณดู

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , | Comments Off on เหตุผลสำหรับที่ที่ต้องปรับปรุงเว็บไซต์สู่ตลาดออนไลน์

มาตรฐานการพัฒนาเว็บไซต์ ให้ทันสำหรับความก้าวหน้าทางอินเตอร์เน็ต

ในโลกของอินเตอร์เน็ตนั้น การใช้งานเวิลด์ไวด์เว็บ (หรือเรียกสั้นๆ ว่า เว็บ) นับว่าได้รับความนิยมมากที่สุด หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บเป็นผู้ปลุกกระแสการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ขยายตัวจากกลุ่มผู้ใช้งานทางด้านคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้ใช้งานอื่นๆ ในทุกสาขาอาชีพ ในปัจจุบันเว็บกลายเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับวงการธุรกิจและการค้า และยังเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจเกือบทุกประเภทเข้ามามีส่วนร่วม มีการทำการตลาด การโฆษณา การซื้อขาย และแม้แต่การชำระเงินซึ่งก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เว็บจึงกลายเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งของชีวิต ที่เป็นทั้งแหล่งข้อมูล แหล่งให้ความเพลิดเพลิน แหล่งซื้อหาสินค้า และบริการต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

ในปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั้น ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนนิยมเข้าถึงข้อมูล และการใช้บริการต่างๆในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น และทำให้เกิดการนำเสนอข้อมูล และบริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นในการพัฒนาเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อใช้ในการนำเสนอข้อมูลและบริการ จึงต้องมีมาตรฐานในการพัฒนา เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลนั้นเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรฐานในการพัฒนาเว็บไซต์ ควรจะประกอบไปด้วยมาตรฐานที่เป็นพื้นฐานดังต่อไปนี้
1.เป็นเว็บไซต์ที่สามารถแสดงผลได้กับทุก Web Browser ในปัจจุบัน web browser ได้รับการพัฒนาออกมาอย่างหลากหลาย ผู้ใช้งานย่อมีสิทธิในการเลือกใช้งานได้อย่างอิสระ เพราฉะนั้นผู้พัฒนาเว็บไซต์จึงต้องคำนึงถึงเรื่องการแสดงผลในทุก web browser ด้วย เพื่อให้การแสดงผลในแต่ละ web browser นั้นมีการแสดงผลที่เหมือน หรือใกล้เคียงกันมากที่สุด
2. เป็นเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Web Accessibility) ซึ่งมีข้อกำหนดของ W3C ที่เรียกว่า WCAG (Web Content Accessibility Guidelines = คำแนะนำในการพัฒนาเว็บไซต์ให้ทุกคนเข้าถึง) เพื่อทำให้การพัฒนาเว็บไซต์สามารถรองรับการใช้งานของทุกกลุ่มคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั้งกลุ่มของคนปกติ และกลุ่มคนพิการ ซึ่งยังต้องการหาข้อมูล และความรู้เหมือนคนปกติ
3. เป็นเว็บไซต์ที่มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้ XHTML โดยที่ XHTML เป็น ภาษามาร์คอัพ ที่มีความคล้ายคลึงกับภาษา HTML แต่จะมีความเข้มงวดในเรื่องโครงสร้างภาษา (syntax) มากกว่า
การตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้ XHTML
4. เป็นเว็บไซต์ที่มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้งาน CSS โดยที่ CSS (Cascading Style Sheet) นั้นจะเป็นตัวที่ช่วยให้การควบคุมการแสดงผลของเว็บไซต์นั้นเป็นไปอย่างอิสระ โดยการแยกส่วนของการแสดงผลออกจากส่วนของเนื้อที่ ทำให้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแสดงผลนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้น การตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้ CSS
5. เป็นเว็บไซต์ที่สามารถดูได้จากอุปกรณ์ที่หลากหลาย ในปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่คอมพิวเตอร์เท่านั้น PDA และโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ เพราะฉะนั้นในการสร้างเว็บไซต์เราจึงจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงการแสดงผลบนอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย

การสร้างเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่ได้คำนึงถึงแต่ความสวยงามเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เว็บไซต์ที่ดียังจะต้องประกอบด้วยมาตรฐานต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้วอีกด้วย

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on มาตรฐานการพัฒนาเว็บไซต์ ให้ทันสำหรับความก้าวหน้าทางอินเตอร์เน็ต

การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตกับการท่องเที่ยว

ปัจจุบันการท่องเที่ยวมีความสำคัญมากขึ้นจนเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีมากกว่าผู้ให้บริการการท่องเที่ยว พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมีการใช้อินเตอร์เน็ตในการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็เปลี่ยนมาให้บริการทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น พอสรุปถึงผลกระทบของอินเตอร์เน็ตต่อการท่องเที่ยวใน 3 ประการ คือ การวางแผนท่องเที่ยว เพราะ นักท่องเที่ยวมีแหลงข้อมูลจำนวนมากในอินเตอร์เน็ตที่สามารถนำมาใช้ประกอบในการวางแผนการท่องเที่ยวและตัดสินใจเลือกท่องเที่ยวจากการเปรียบเทียบข้อมูลท่องเที่ยวในอินเตอร์เน็ต และตัดสินใจซื้อรายการท่องเที่ยวผ่านอินเตอร์เน็ตในรูปแบบที่เรียกว่า พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวสามารถโต้ตอบกับผู้ประกอบการและสร้างเนื้อหาการท่องเที่ยวใส่กลับไปในอินเตอร์เน็ตเพื่อเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อีกด้วย ทำให้เกิดสังคม ชุมชนท่องเที่ยวที่มีข้อมูลมหาศาล บริการนักท่องเที่ยวในทุกๆ เรื่องที่ต้องการ เช่น ข้อมูลโรงแรม ข้อมูลการเดินทาง ข้อมูลร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งข้อมูลความพึงพอใจ ในการใช้บริหารของการท่องเที่ยวที่ได้ไปมาแล้วเพื่อแจ้งให้กับนักเดินทางคนต่อไป

การค้า อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการติดต่อซื้อขายสินค้า และทำให้เกิดการค้าในรูปแบบของ พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น Helmut Berger และคณะได้กล่าวถึงการท่องเที่ยวว่าเป็นผู้นำตลาดในการพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์แบบ B2C เห็นได้จากจำนวนการขายแบบออนไลน์เพิ่มสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องคงที่เช่น การเดินทาง ขนส่ง ที่พัก เป็นต้น โครงสร้างของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อินเตอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรมไปนักท่องเที่ยวไม่ต้องติดต่อบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเพื่อการท่องเที่ยวอีกแล้ว เนื่องจาก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น มีข้อมูลแบบ real time ที่มีทั้งภาพ เสียง รายละเอียดข้อมูลทุกอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการนำเสนอข้อมูล ราคาที่ถูกกว่าเพราะไม่ต้องผ่านบริษัทตัวแทน ได้ลูกจำนวนมากกว่า และสามารถติดต่อโดยตรงกับนักท่องเที่ยว Roman Egger และ Dimitrios Buhalis ได้กล่าวถึงปัจจัยที่องค์กรการท่องเที่ยวจะต้องปรับเปลี่ยนนำเอา ICT มาใช้เพื่อทำให้เกิดความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น สามารถบริหารจัดการบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในเครือข่ายได้ และปรับใช้เพื่อความได้เปรียบกับคู่แข่ง

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กร กระบวนการดำเนินธุรกิจ การทำงานภายใน การเปลี่ยนแปลงบทบาททางธุรกิจ ความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้ขายเปลี่ยนแปลงการนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงการจ้างงานการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กร การพัฒนาด้านอินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการปฏิวัติโครงสร้างของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและมีผลกระทบต่อตัวกลางการท่องเที่ยวโดยตรง เพราะผู้จัดหาสินค้าบริการท่องเที่ยวสามารถขายตรงไปยังผู้บริโภค ตัวกลางที่เชื่อมโยงระหว่างผู้บริโภคและผู้จัดหาต้องเผชิญกับปัญหาการตัดตัวกลางหรือถูกทดแทนด้วยตัวกลางออนไลน์

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตกับการท่องเที่ยว

แนวโน้มของการปรับปรุงและพัฒนาอินเตอร์เน็ตในอนาคต และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง


เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีราคาลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีเพิ่มขึ้นทุกวัน และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็น ต่อการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ อินเทอร์เน็ต การประชุมวิดีโอทางไกล ระบบเครือข่าย และระบบสารสนเทศเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ เป็นต้น ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตนับว่าเป็นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่มีความเจริญเติบโตรวดเร็วที่สุด จำนวนของผู้ใช้และจำนวนของเว็บไซต์ (Web sites) ที่นับว่าเป็นส่วนสำคัญของอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถนำเสนอข้อมูลในรูปของสื่อประสม (multimedia) ก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

อินเทอร์เน็ต ได้กลายเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมไปทั่วโลก พร้อมกับมีข้อมูลมหาศาล ทุกประเภท สำหรับบริการให้ค้นคว้า และรับส่งข้อมูลไปมาระหว่างกันได้ ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตสามารถใช้บริการต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา เราสามารถใช้สืบค้น ค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม ศิลปกรรม สังคมศาสตร์ กฎหมาย ข้อมูลทางวิชาการ บทความงานวิจัยจากที่ต่างๆ อินเตอร์เน็ตทำหน้าที่เหมือนห้องสมุด บริการส่งข้อมูลที่เราต้องการมาให้ถึงที่บ้าน ที่ทำงานโดยที่เราไม่ต้องเดินทางและได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของมนุษย์ การขยายบริการเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ตทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและติดต่อสื่อสารกันได้แทบทุกหนทุกแห่ง โลกจะอยู่ในยุคที่คอมพิวเตอร์แทรกซึมสู่วิถีชีวิตส่วนตัวและวิถีการทำงาน ผู้คนจะใช้อินเทอร์เน็ตทำงานแทน ใช้อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงกิจกรรมบันเทิงเพื่อการผักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตยังส่งผลกระทบสำคัญในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง อีกด้วย

แนวโน้มของอินเทอร์เน็ตในอนาคต จะพัฒนาไปสู่การเป็น “สรรพสิ่งอัจฉริยะ” เพื่อให้การพัฒนา เทคโนโลยีไปไกลถึงในระดับที่คำว่า Internet of Things (อินเตอร์เน็ตในสรรพสิ่ง) จำเป็นต้องบริหารจัดการ สร้างมาตรฐาน และ พัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยรวมศูนย์ และมีเครือข่ายการสื่อสารครอบคลุมทั่วทั้งโลก มาตรฐานที่ยั่งยืนควรได้รับการพัฒนา เพื่อให้ข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาล สามารถแลกเปลี่ยนกันระหว่างสิ่งของกับสิ่งของ และผู้คนกับสิ่งของได้ รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถของสิ่งของเครื่องใช้อัจฉริยะให้มีความทนทานต่อความรุนแรงของสิ่งแวดล้อมอันเลวร้าย แต่ยังสามารถปรับตัวได้อย่างอัตโนมัติ ฉลาด และน่าเชื่อถือ ที่สำคัญมากอีกประการหนึ่งคือ ระบบอินเทอร์เน็ตในอนาคตควรเป็นที่เชื่อมั่น มีความเป็นส่วนตัวและมีความปลอดภัยอีกด้วย

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , | Comments Off on แนวโน้มของการปรับปรุงและพัฒนาอินเตอร์เน็ตในอนาคต และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

การพัฒนาประเทศในทุกด้านเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน

กลยุทธ์การพัฒนาประเทศที่ให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรม ก่อให้เกดความไม่เป็นธรรมในการกระจายรายได้ระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมอย่างเห็นได้ชัด แนวโน้มในปัจจุบันสัดส่วนของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สัดส่วนของภาคเกษตรกรรมลดลง แต่การจ้างแรงงานของเกษตรกรรมยังคงสูงเท่าอุตสาหกรรม อีกทั้งการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑลและเมืองใหญ่ๆเท่านั้น

ความจำเป็นที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในประเทศไทย

ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร รายได้จากผลผลิตทางการเกษตรมีมากกว่ารายได้อย่างอื่น และประมาณร้อยละ 80 ของประชากรอาศัยอยู่ในชนบท ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาใช้จึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางการเกษตร สินค้าทางการเกษตรส่วนใหญ่ส่งออกจำหน่ายต่างประเทศในลักษณะวัตถุดิบ โดยเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการต่างๆ และสอดคล้องกับความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และกำลังเศรษฐกิจของคนทั่วไป เทคโนโลยีได้ช่วยให้สังคมหลายๆแห่งเกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจมากขึ้นซึ่งรวมทั้งเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ในหลายๆขั้นตอนของการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีได้ก่อให้ผลผลิตที่ไม่ต้องการ เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีหลายๆอย่างที่ถูกนำมาใช้มีผลต่อค่านิยมและวัฒนธรรมของสังคม

แม้ปัญหาความยากจนมีแนวโน้มดีขึ้นในปัจจุบัน

โดยสัดส่วนคนจนลดลง คนจนส่วนใหญ่อาศัยในชนบทประกอบอาชีพหลักทางการเกษตร และหัวหน้าครัวเรือนมีการศึกษาชั้นประถมหรือไม่มีการศึกษา แต่ความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่างกลุ่มต่างๆของชั้นรายได้มากขึ้น นอกเหนือจากความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ระหว่างบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ความไม่เท่าเทียมของรายได้ที่กระจายระหว่างภูมิภาคก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ตัวอย่างปัญหาความยากจน ความยากจนที่เกิดขึ้นในชุมชน เช่น ปัญหาความยากจนที่มีผลสืบเนื่องมาจากสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตทางเกษตรกรรมตกต่ำ

การพัฒนาประเทศในทุกๆด้านให้มั่นคง

1.การพัฒนาเกษตรกรรม เป็นเกษตรกรรมที่แรรูปเป็นผลผลิตที่ทุกชนชาตินำไปใช้ได้
2.อุตสาหกรรม ส่งเสริมการศึกษาในรบบการคำนวณ-ภาษาต่างประเทศ เพื่อการติดต่อกับประเทศอื่นๆทั่วโลกเพื่อการค้าการลงทุน
3.ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทย ส่งเสริมให้มีกฎหมายที่ครอบคุมเหมาะสมกับความยุติธรรมในสังคม
4.พัฒนาบุคคลระดับประเทศให้มีความสามารถในด้านการเมือง การติดต่อ การบริหารประเทศ รวมทั้งจริยธรรมแห่งชั้นชั้นปกครองให้เหมาะสม
5.พัฒนาระบบกองทัพให้เข้มแข็งน่าเกรงขาม เพื่อป้องปรามประเทศที่เป็นอัธพาลและเพื่อการติดต่อเจรจาด้านต่างๆ

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , , | Comments Off on การพัฒนาประเทศในทุกด้านเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน

อย่ามองข้ามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน

เพราะโลกวันนี้ใช้ความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นตัวชี้วัด ความสำเร็จขององค์กร ด้วยกระแสการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือองค์กรการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วและรุนแรง ก็ด้วยปัจจัยที่เกิดจากการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และความซับซ้อนของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบกับการดำเนินงานทั้งภายในและภายนอกองค์การ ส่งผลให้เวทีการแข่งขันที่เคยจำกัดอยู่ในวงแคบๆ ขยายขอบเขตออกไปครอบคลุมทั่วโลก อีกทั้งแนวคิดในการบริหารจัดการสมัยใหม่ทั้งการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) การจัดการคุณภาพ (Quality Management) การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการจัดการความรู้ ทำให้องค์กรและหน่วยงานทั้งหลายต้องปรับท่าที เพื่อความอยู่รอด และมีภูมิคุ้มกันอย่างมั่นคง เพราะองค์กรเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่เครื่องจักร โดยคนเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งคนก็ไม่ใช่ต้นทุน แต่เป็นทุนมนุษย์ เพราะในตัวคนมีทักษะและประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดความชำนาญซึ่งเป็น “ทุนความรู้” จำเป็นต้องสร้างค่านิยมขององค์การ และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ความรู้ภายใต้บริบทเฉพาะมักแฝงอยู่ในภาษา วัฒนธรรม หรือประเพณี นักวิพากษ์ ลัทธิจักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม กล่าวว่าการเกิดขึ้นของวัฒนธรรมเดี่ยว ทำให้ความรู้ท้องถิ่นบางอย่างถูกทำลายลง ทำอย่างไรให้ความรู้ในทางปฏิบัติ ซึ่งมักเป็นที่ทราบกันในตัวคนหรือกลุ่มคน ถูกปรับเปลี่ยนและจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อรักษาองค์กรไว้ ซึ่งจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ ให้ความรู้ทั้งหลายนั้นกลายเป็นความรู้ที่เกิดประโยชน์สำหรับคนทั้งองค์กร เพื่อการก้าวเข้าสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ เพราะ“ความรู้” คือ “อำนาจ”

หากเราติดตามความเคลื่อนไหวของกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะพบว่า ปัจจุบันนี้หลายองค์กรไม่ว่าจะเป็นภาคราชการ เอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศอย่างหน่วยงานทหาร พยายามจะแสดงถึงความมีประสิทธิภาพของตนเองด้วยการประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะก้าวไปสู่การเป็น “องค์กรแห่งการเรียนรู้” เทคโนโลยีหลายอย่างได้ถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ และส่งผลให้กระบวนการทำงานได้เปลี่ยนรูปแบบไป ตัวอย่างเช่น การนำเอาเทคโนโลยีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics mail) เข้ามาใช้ภายในองค์การ ทำให้การส่งข่าวสารไม่ต้องใช้พนักงานเดินหนังสืออีกต่อไป ตลอดจนลดการใช้กระดาษที่ต้องพิมพ์ข่าวสาร และสามารถส่งข่าวสารไปถึงบุคคลที่ต้องการ ได้เป็นจำนวนมากและรวดเร็ว หรือเทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ (office automation) ที่เปลี่ยนรูปแบบของกระบวนการทำงานและประสานงาน ในองค์การให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการ บริหารงานของผู้บริหารในระดับต่าง ๆ ขององค์การ

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on อย่ามองข้ามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน

การใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้านขององค์กร

 

เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีราคาลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีเพิ่มขึ้นทุกวัน และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็น ต่อการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ อินเทอร์เน็ต การประชุมวิดีโอทางไกล ระบบเครือข่าย และระบบสารสนเทศเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ เป็นต้น

ปัจจุบันพัฒนาการและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ในองค์การ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายแก่ผู้บริหารในอนาคตให้นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ โดยผู้บริหารต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และวิสัยทัศน์ต่อแนวโน้มของเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถตัดสินใจนำเทคโนโลยีมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถจำแนกผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อการทำงานขององค์การออกเป็น 5 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

1. การปรับปรุงรูปแบบการทำงานขององค์การ เทคโนโลยีหลายอย่างได้ถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ และส่งผลให้กระบวนการในการทำงานได้เปลี่ยนรูปแบบไป ตัวอย่างเช่น การนำเอาเทคโนโลยีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail) เข้ามาใช้ภายในองค์การ ทำให้การส่งข่าวสารไม่ต้องใช้พนักงานเดินหนังสืออีกต่อไป ตลอดจนลดการใช้กระดาษที่ต้องพิมพ์ข่าวสาร

2. การสนับสนุนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศผลิตสารสนเทศที่สำคัญให้แก่ผู้บริหารที่จะใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขัน โดยอนาคตการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมจะมีความรุนแรงมากขึ้น การบริหารงานของผู้บริหารที่อาศัยเพียงประสบการณ์และโชคชะตาอาจจะไม่เพียงพอ แต่ถ้าผู้บริหารมีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมาประกอบในการตัดสินใจ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและบริหารงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นผู้บริหารในอนาคตจะต้องสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสารสนเทศที่ดีให้กับตนเองและองค์การ

3. เครื่องมือในการทำงาน เทคโนโลยีถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถที่จะนำมาประยุกต์ในหลาย ๆ ด้าน โดยเทคโนโลยีจะช่วยเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงคุณภาพของการทำงานให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของแรงงาน และวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ ลง แต่ยังคงรักษา หรือเพิ่มคุณภาพในการทำงานหรือการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเทคโนโลยีจะถูกนำเข้ามาใช้ในการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงกระบวนการในการดำเนินขององค์การมากขึ้นในอนาคต

4. การเพิ่มผลผลิตของงานโดยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการใช้งานสะดวกและไม่ซับซ้อนเหมือนอย่างคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ในท้องตลาดยังมีชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Softwareอีกมากมายที่สามารถใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตของงานได้อย่างมาก และเมื่อต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบเครือข่าย ก็จะทำให้องค์การสามารถรับส่งข้อมูลและข่าวสารจากทั้งภายในและภายนอกองค์การได้อีกด้วย ดังนั้นในอนาคตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะกลายเป็นเครื่องมือหลักของพนักงานและผู้บริหารขององค์การ

5. เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ในช่วงแรกของการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานทางธุรกิจคอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็นเพียงอุปกรณ์หลักที่ช่วยในการเก็บและคำนวณข้อมูลต่าง ๆ เท่านั้น ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มีศักยภาพจากทั้งภายในองค์การหรือภายนอกองค์การ โดยไม่จำกัดขอบเขตว่าผู้ใช้จะอยู่ห่างไกลกันเท่าใด ปัจจุบันผู้ใช้สามารถติดต่อเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลก คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทที่สำคัญมากกว่าการเป็นเครื่องที่เก็บและประมวลผลข้อมูลเหมือนอย่างในอดีตต่อไป

แนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์การ แสดงให้เราเห็นได้ว่าในอนาคตผู้ที่จะเป็นนักบริหารและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่เพียงแค่รู้จักคอมพิวเตอร์ แต่จะต้องสามารถใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้จักการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารในอนาคตจะต้องรู้จักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานของตนเอง มีความคิดในการที่จะสร้างระบบสารสนเทศที่ตนเองต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในภาวะที่มีการแข่งขันสูง ทำให้การบริหารของตนเองมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ขณะที่นักวิชาชีพจะใช้ระบบสารสนเทศในการรวบรวม และประมวลผล และจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

Posted in Uncategorized | Tagged | Comments Off on การใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกด้านขององค์กร

การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีต่างๆ

การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีต่างๆ

เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีราคาลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีเพิ่มขึ้นทุกวัน และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็น ต่อการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ อินเทอร์เน็ต การประชุมวิดีโอทางไกล ระบบเครือข่าย และระบบสารสนเทศเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ เป็นต้น นอกจากนี้เทคโนโลยีเหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาองค์กรและการบริหารการเปลี่ยนแปลงได้จัดให้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร เทคโนโลยีที่ใช้กันในปัจจุบันจึงถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล การแก้ไขเปลี่ยนแปลง การเรียกดูข้อมูล การประมวลผล การใช้งานร่วมกันแบบหลายๆ คน และการวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น มีค่าใช้จ่ายต่ำลง เพิ่มคุณค่าและประโยชน์ในการใช้งานข้อมูล และสารสนเทศที่ได้มาจะมีคุณภาพในการนำไปวิเคราะห์และใช้งานมากเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันเทคโนโลยียังสามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการในการผลิตและการทำงานให้มีต้นทุนที่ต่ำลง ใช้เวลาในการทำงานที่ลดลง และได้สินค้าหรือผลลัพธ์ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรเป็นอย่างยิ่งจะนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาองค์กรได้อย่างไร การนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาองค์กรสามารถทำได้หลายระดับและหลายรูปแบบ เช่น การนำไปจัดระบบกระบวนการผลิตอัตโนมัติในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาองค์กร ดังต่อไปนี้

การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์กร เทคโนโลยีสามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมขององค์กรได้โดยรวดเร็วและถึงตัวบุคคลมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงก็คือ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีการประชุมระหว่างแพทย์กับพยาบาลเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งวิธีการนัดประชุมก็คือทำเป็นจดหมายและโทรศัพท์แจ้ง ในขณะประชุมก็มีเจ้าหน้าที่หนึ่งคนบันทึกการประชุม หลังประชุมเสร็จอีกประมาณ 2-3 วันเจ้าหน้าที่จึงจะพิมพ์บันทึกการประชุมไปให้ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดได้ ทำให้เกิดปัญหาทั้งการมาเข้าร่วมประชุมไม่ครบ การวางแผนงานเกิดความผิดพลาดเพราะแผนที่สรุปในห้องประชุมไม่ตรงกับแผนการทำงานส่วนบุคคล เป็นต้น ในเวลาต่อมาหัวหน้าแพทย์ซื้อเครื่องบันทึกข้อมูลแบบปาล์มมาให้ทุกคนใช้งาน โดยใช้ในการนัดหมายประชุม จัดตารางนัดหมาย และบันทึกผลการประชุม ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนสามารถบันทึกนัดหมายได้ตรงกันมากขึ้นและรับบันทึกการประชุมได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้การส่งข้อมูลแบบไร้สาย ทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ของผู้เข้าร่วมประชุมก็คือการถือเครื่องปาล์มไปประชุมแทนการถือเอกสารพะรุงพะรัง

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , , , | Comments Off on การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีต่างๆ