เคยรู้หรือผ่าตัดกระพุ้งแก้มหมายถึงอย่างไรกัน?

ในงานผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม …คืองานผ่าตัดหดสัดส่วนแก้มโดยการชี้นำไขมันบริเวณกระพุ้งแก้มออก เกี่ยวกับทำให้เสมอโครงหน้า เป็นเหตุให้หน้าตาเรียวสั้นเข้า ขจัดปัญหาบริเวณคอและบริเวณเค้าหน้า ซึ่งจะเป็นข้อสงสัยที่จะพบมากจากการสั่งสมไขไว้บนหน้ามากจนเกินไป โดยจะอยู่ในจุดที่ไม่พึงปรารถนา อย่างพวกแก้มหรือคาง จึงทำให้เค้าหน้านั้นดูมน และรู้สึกไม่โอไม่แน่ใจกับหน้าตา ที่ออกมาสักเท่าไร ต้นเหตุหลักนั้นก็จะมาจากการที่รับประทานอาหารมากจนเกินพอดี เรียกได้ว่ากินไม่ยั้ง อ้วนอุ้ยอ้ายแล้วล่ำอีก 5555 เหตุนี้ก็อุบัติขึ้นได้นะจ้ะ ข้าวปลาอาหารที่มีแคลลอรี่สูงๆ ตัวอย่างเช่น กลุ่มคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล ไขมัน ฯลฯ โดยไม่ได้ขนาดกับการเผาผลาญไขมัน ดังเช่น จากการบริการร่างกาย เมื่อช่วงเวลาเลยไปเรื่อยๆ ไขมันส่วนเกิน ก็จะเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ไขมัน ก็จะอ้วนพองใหญ่และเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ทำให้เซลล์แพร่ขยายออก หรือไม่ก็ใหญ่ขึ้นโดยเจาะจงบางส่วนได้

โดยในปัจจุบันนี้ก็มีหลายวิธี ดังเช่น การลดความอ้วน การบริหารกาย การฉีดสารเพื่อจะมลายไขมัน แต่การถนอมที่เข้าแง่ เห็นบทสรุปมากคือ งานผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ก็สามารถเกิดปัญหาเอ้ะ!! เจ้าไขมันกระพุ้งแก้มคือส่วนใดกัน จริงๆแล้วมันเป็นไขมันที่กักตุนบริเวณกระพุ้งแก้ม แตกต่างจากบริเวณโหนกแก้ม ซึ่งจำนวนมากจะเป็นกล้ามและมีไขมันชั้นใต้หนังปริมาณเล็กน้อย โดยไขกระพุ้งแก้มนี้มักจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดคำถามยิ้มแป้นแล้วหน้าบานและแก้มหย่อนยาน

เราจึงได้แต่ชี้แนะว่าถ้าต้องการเป็นเหตุให้ปรึกษาผู้รักษาผู้ช่ำชองก่อนที่นี้ http://www.ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม.com

Posted in ศัลยกรรม | Tagged , , | Comments Off on เคยรู้หรือผ่าตัดกระพุ้งแก้มหมายถึงอย่างไรกัน?

ทอง 18k gold

หากจะพูดถึงคำว่าทองคำ หรือทองรูปพรรณ สำหรับในประเทศไทยแล้วคงจะคุ้นชินกับคำว่า ทองแท่งแบบ 99.99 เปอร์เซ็นต์ หรือทองคำแท่งแบบ 100 เปอร์เซนต์ หรือที่เรียกกันว่าทองแท้ แต่หนึ่งในตระกูลของทองนั้นที่นิยมกันในประเทศไทยนั้น ก็มีทองอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกันนั่นคือทองที่มีส่วนผสมของทองแดงหรืออัลลอยด์ผสมลงไปในเนื้อทองด้วย หรือที่นิยมเรียกกันว่าทอง 18k นั่นเอง

โดยทอง 18k gold นั้นเป็นทองที่นิยมใช้กันอย่างมากในกลุ่มงานประเภทจิวเวลรี่ และนิยมนำมาใช้ทำเป็นสร้อยคอ แหวน และเครื่องประดับต่าง ๆ เนื่องจากมีความแข็งแรงเงางาม และไม่บุบ หรือบิดตัวได้ง่ายเหมือนกับทองคำประเภทอื่น ส่วนผสมของทอง 18k gold นั้นจะมีเนื้อทองคำปนอยู่ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์และมีส่วนผสมจากโลหะอื่นประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เนื้อทองเป็นสีเหลือง ได้รับความนิยมกันอย่างมากในอเมริกา, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี

โดยทอง 18k gold นั้นสามารถแบ่งตามรูปแบบได้ ดังต่อไปนี้

  • ทอง 18 K Yellow Gold

เป็นทองเคที่มีสีเหลือง มีส่วนประกอบของทอง 75% เงิน 16% และทองแดง 9%

  • ทอง 18 K Pink Yellow Gold

เป็นทองเคที่มีสีเหลืองอมชมพู มีส่วนประกอบของทอง 75% เงิน 12.5% และทองแดง 12.5

  • ทอง 18 K Rose Pink or Rose Gold

เป็นทองเคที่มีสีกุหลาบ  มีส่วนประกอบของทอง 75% เงิน 9% และทองแดง9%

  • ทอง 18 K Red Gold

เป็นทองเคที่มีสีเหลืองอมแดง (สีนาก)  มีส่วนประกอบของทอง75% เงิน 4.5% และทองแดง 20.5%

  • ทอง 18 K White Gold

เป็นทองเคที่มีสีขาว  มีส่วนประกอบของทอง75% เงิน 5% และทองแดง 20%

สำหรับใครที่สนใจเครื่องประดับงานพลอยทั้งหลาย ร้านเราอาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่มีสินค้าที่ท่านต้องการ สามารถเข้ามาดูสินค้าก่อนได้ที่ www.thailandgold100.com

Posted in สินค้า | Tagged | Comments Off on ทอง 18k gold

การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขัน

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมต่อมูลค่าการส่งออกรวมมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นภาคที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศจึงจำเป็นต้องมีการกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งในภาพรวม และรายสาขาที่มีศักยภาพให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของกระแสโลก ซึ่งประกอบด้วยการสร้างคุณค่าด้วยนวัตกรรม องค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมถึงปรับศักยภาพหลักของไทยให้สอดคล้องกับความต้องการในระดับโลกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นสาขาที่มีศักยภาพและมีความสำคัญต่อประเทศไทยเป็นอย่างมากในด้านสังคมและเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของมนุษย์และเป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานสูงมีบทบาทสำคัญต่อภาคเศรษฐกิจในการสร้างรายได้จากการส่งออก ทำให้เกิดการกระจายรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับแนวทางการกำหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขัน โดยการกำหนดนโยบายในแต่ละด้านตามองค์ประกอบการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขันดังนี้

1.ด้านประสิทธิภาพการผลิต โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอตลอดห่วงโซ่มูลค่าการเสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการ การส่งเสริมและพัฒนาการใช้วัตถุดิบในประเทศและการส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

2.ด้านคุณภาพสินค้า โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์และการสร้างตราสินค้าสัญชาติไทย

3.ด้านสารสนเทศการตลาด โดยการตลาดเชิงรุกและการพัฒนาการบริหารจัดการข้อมูล การจัดให้มีหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางรับผิดชอบเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ

4.ด้านแรงงาน โดยการยกระดับทุนมนุษย์เชิงบูรณาการการพัฒนาทักษะแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว

5.ด้านนโยบายระหว่างประเทศและกฎหมาย โดยการพัฒนานโยบายระหว่างประเทศและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสิ่งทอให้สอดคล้องและเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ

6.ด้านความสามารถในการแข่งขัน โดยการยกระดับปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์และการแข่งขันในเวทีสากล การเตรียมความพร้อมสู่การเปิดเสรี และการสร้างโอกาสจากความร่วมมือในประชาคมเศรษฐกิจอีกด้วย

เพื่อให้อุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเจริญก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมในด้านต่างๆที่กล่าวมา รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาการใช้วัตถุดิบในประเทศ เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบด้วยการส่งเสริมการปลูกฝ้าย หม่อนไหม เพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศอีกด้วย

Posted in Uncategorized, อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเพื่อการแข่งขัน

การปรับปรุงและการพัฒนาภาคการขนส่งในอนาคต

การปรับปรุงและการพัฒนาภาคการขนส่งในอนาคต

การคมนาคมและการขนส่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีการค้าโลก และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ประเทศไทยมีความได้เปรียบด้านพื้นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค โดยได้มี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางบก ราง น้ำ อากาศ และโครงข่ายระบบขนส่งของประเทศ ครอบคลุมทั่วประเทศและได้มาตรฐาน

การรวมตัวเป็นประชาเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้ เกิดขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศในภูมิภาคปริมาณการขนส่งสินค้า และการเดินทางในภูมิภาคจะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อรองรับเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อ การเดินทางและการขนส่งของภูมิภาคจึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของประตูการค้าและ การเชื่อมต่อโครงข่ายการขนส่ง การอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการขนส่งไทย

การปรับปรุงและการพัฒนาภาคการขนส่งในอนาคต

  1. การจราจรแออัด การเจริญเติบโต และการขยายตัวของเมืองแบบกระจุกตัวอยู่บริเวณ ศูนย์กลางเมือง ส่งผลให้มีความต้องการเดินทางบนถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนจำนวนมาก ประกอบกับ การบริหารจัดการจราจรยังไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้การจราจรเกิดการติดขัด ส่งผลต่อบรรยากาศในการเข้ามา ลงทุน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า และบริการ จึงควรคำนึงถึงความต้องการเดินทางในลักษณะต่างๆ ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงและเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพิ่มขึ้น และนำมาตรการจัดการความต้องการเดินทาง มาใช้เพื่อลดความแออัด ของสภาพการจราจรบนถนน
  2. ความปลอดภัย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกว่าร้อยละ 99 เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการขนส่งทางถนน รองลงมาเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น กับการขนส่งทางรถไฟ โดยร้อยละ 80 มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของคน และส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ มูลค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คิดเป็นร้อยละ 8 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งโดยทั่วไปไม่ควรเกินร้อยละ 1
  3. ความคล่องตัวและความสามารถในการเข้าถึง การพัฒนาและปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐานต้องมีความสอดคล้องและพอเพียงกับความต้องการเดินทาง เพื่อรักษาระดับการให้บริการ และบรรเทาความคับคั่งของการจราจร ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งแก้ไขปัญหา ขาดโครงข่ายเชื่อมโยงระบบขนส่งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงระบบขนส่ง
  4. การใช้พลังงานในภาคการขนส่ง ประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง จากต่างประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีความผันผวน และมีแนวโน้มสูงขึ้น รวมทั้งมีข้อจำกัด ด้านปริมาณการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำของโลก ทั้งนี้การใช้พลังงานในภาคการขนส่งมีสัดส่วนการใช้พลังงานสูง แบ่งเป็นการใช้พลังงานในการขนส่งทางบก การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งทางน้ำ ดังนั้น ภาคการขนส่งต้องจะคำนึงเรื่องการประหยัดพลังงาน การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทางเลือกที่มี ความหลากหลายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
  5. ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการขนส่งและจราจร ได้แก่ปัญหาการเกิดภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ปัญหามลพิษทางเสียง และอากาศของยานพาหนะจากการขนส่งและจราจร ปริมาณควันดำจากยานพาหนะ ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งมาสู่การขนส่ง ทางน้ำและทางราง รวมทั้งการส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่ประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทน จะสามารถช่วยลดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากการขนส่ง และจราจรได้
  6. ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ประเทศไทยควรเตรียมความพร้อม รองรับการเปิดเสรีการค้าและบริการ ไม่เพียงแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวก การเชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่ง แต่ต้องส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสาขาขนส่งเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขัน สร้างกลไกการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยสามารถออกไปแข่งขันในตลาดสากลได้
Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on การปรับปรุงและการพัฒนาภาคการขนส่งในอนาคต

การปรับปรุงและพัฒนาบุคลิกภาพอย่างเหมาะสม

confident-young-female-project-managerการที่คนเราจะมีบุคลิกภาพดีนั้น มิใช่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพียงภายนอกด้วยการแต่งกายหรือพฤติกรรมที่แสดงออกเท่านั้น หากจำเป็นต้องมีการปรับปรุงหรือพัฒนาบุคลิกภาพภายในเสียก่อนเป็นเบื้องต้น จึงจะทำให้การพัฒนาบุคลิกภาพภายนอกประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การนั่ง การพูดจา หรือว่าเคลื่อนไหวร่างกายในท่วงท่าใดๆ ดูแล้วก็สง่าและสวยงามไปหมด แต่บุคลิกภาพไม่ใช่แค่เรื่องของความสง่าผ่าเผยที่คนเรามองกันจากภายนอกเท่านั้น มันยังสำคัญต่อสุขภาพของเราด้วย ทั้งช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด หายใจได้สะดวก รวมทั้งยังช่วยเรื่องอาการปวดเมื่อยของร่างกายด้วย สิ่งสำคัญที่เป็นพื้นฐานในการพัฒนาบุคลิกภาพคือความเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพดี ต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญทางด้านร่างกายที่สมบูรณ์และจิตใจที่ดี จึงต้องอาศัยสุขภาพที่ดี ดังนั้นบุคคลทุกคนสามารถพัฒนาบุคลิกภาพได้

แท้จริงแล้วบุคลิกภาพเป็นธรรมชาติของอุปนิสัยและพฤติกรรมการแสดงออกของคนเราแต่ละคนที่แตกต่างกัน การพัฒนาบุคลิกภาพจึงไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมแต่ต้องพัฒนาจากภายใน เมื่อเราก้าวเข้าสู่สังคมการทำงาน มีสิ่งหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือความคาดหวัง บุคลิกภาพที่สังคมคาดหวังจาก อาชีพ ตำแหน่ง บทบาท ในหนึ่งวันเราอาจจะเป็นทั้งหัวหน้า ลูกน้อง หรือคู่ค้าทางธุรกิจ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะปรับบุคลิกของตัวเองต่อสถานการณ์และบทบาทต่างๆให้ได้อย่างเหมาะสม การมีบุคลิกภาพที่ดีไม่ใช่การปรับเพื่อที่จะสูญเสียความเป็นตัวเอง แต่เป็นการปรับเพื่อแสดงตัวตนให้ได้อย่างเหมาะสม สร้างความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจและความประทับใจ

การพัฒนาการของบุคลิกภาพเป็นผลซึ่งเกิดจากการเรียนและการฝึกหัดในทุกๆด้าน ถ้าเราศึกษาบุคลิกภาพชั้นนำของโลกจะเห็นได้ว่าอำนาจดึงดูดของบุคลิกภาพของคนเหล่านี้ ประกอบขึ้นด้วยพฤติกรรมต่างๆที่คนเหล่านี้ค่อยๆฝึกทำไปจนเป็นนิสัย นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่าในระยะต้นๆของชีวิตของบุคคลเหล่านี้ เขาได้ดัดแปลง แต่ง ปรุง แบบสวนกับปฏิกิริยาต่างๆอยู่เสมอ แบบอันไหนที่ไม่เหมาะและไม่นำความสำเร็จมาให้ คนเหล่านี้ก็ทิ้งเสีย และแต่ง ปรุงอันใหม่ๆขึ้นมาเสมอ บุคลิกภาพของดาราภาพยนตร์คนสำคัญต่างๆก็ไม่คงที่ ต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับความต้องการของมหาชนอยู่เสมอ

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , , | Comments Off on การปรับปรุงและพัฒนาบุคลิกภาพอย่างเหมาะสม

การพัฒนาตนเองให้มีความสุขอยู่เสมอ

โลกมีความก้าวหน้าและหมุนไปเรื่อยๆ มีผู้คนที่มีความรู้ความสามารถมากมาย ทำให้เราควรพัฒนาตนเองให้ทันผู้อื่น เพื่อที่จะสามารถทำงาน หรือใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข สำหรับแนวทางในการพัฒนาตนเอง มีดังนี้

1.เปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงเป็นทางเดียวที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น คนส่วนใหญ่ไม่ชอบและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะเป็นแรงฉุดที่ทำให้คุณอยู่กับที่ ควรคิดถึงสิ่งที่จะได้รับเมื่อพัฒนาตนเองว่ามันมีผลดีแค่ไหนในอนาคต

2.เลิกหาข้อแก้ตัว ไม่ควรโทษว่าเป็นความผิดของคนหรือสิ่งต่างๆที่อยุ่รอบตัวเมื่อเจอปัญหา การกล่าวโทษหรือบ่นให้กับสิ่งต่างๆ นอกจากจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น แล้วยังทำให้ตัวเรามีความสุขน้อยลงด้วย เมื่อทำอะไรแล้วไม่เป็นตามที่หวังควรยอมรับความผิดพลาดด้วยตนเอง

3.เป็นแบบอย่างที่ดี ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งยิ่งช่วยทำให้ชีวิตเราดียิ่งขึ้น ทำให้คุณรู้สึกว่ามีคนที่นับถือคุณอยู่ คอยดูคุณเป็นแบบอย่างที่ดีของพวกเขา

4.ให้อภัย เป็นเรื่องยากที่จะให้อภัยกับคนที่ทำให้เราเสียใจหรือผิดหวัง แต่แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือตัวเราเอง เรียนรู้ที่จะปล่อยวางและให้อภัย เพื่อทำให้ตนเองมีความสุข ไม่จมอยู่กับความทุกข์

5.เป็นผู้ฟังที่ดี ทำชีวิตของเราให้ช้าลงบ้าง อย่ามัวแต่เร่งรีบจนเกินไป เลือกใส่ใจและรับฟัง เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสสำคัญและความสุขในชีวิต

6.สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่เรารัก เพิ่มความสุขในแต่และวันให้กับคนอื่น หาทำกิจกรรมทำร่วมกัน เช่น นัดพบปะพูดคุยเรื่องราวของตนเอง แล้วคุณจะพบว่าตัวคุณเองจะรู้สึกถึงความสุขนั้นมากกว่าใครๆ

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาตนเอง คือ อย่าปล่อยให้ชีวิตตัวเราผ่านไปวันๆโดยไร้จุดหมาย ควรริเริ่มที่จะทำอะไรเพื่อตนเอง ด้วยการพัฒนาตนเองให้มีความสุขอยู่เสมอ หาอะไรทำเพิ่มเติม หรือออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ เข้าสังคมใหม่ๆ และที่สำคัญยังทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปกับเราด้วย

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on การพัฒนาตนเองให้มีความสุขอยู่เสมอ

การส่งเสริมและพัฒนาด้านฝีมือแรงงานเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

SDC17111_resize
กระแสความตื่นตัวในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้องค์กรต้องเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความรู้ความสามารถ สมรรถนะ และศักยภาพเหมาะสมกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเน้นพัฒนาทักษะและความสามารถทางการใช้ภาษา การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ทางสังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของประเทศในประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน และก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมีการเปิดเสรีทางการค้า การบริการ การลงทุน ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดการแย่งชิงแรงงานฝีมือดี หรือสงครามแย่งชิงคนดีคนเก่ง

ในอนาคตที่ประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปลายปี 2558 การแข่งขันกันในการสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น แรงงานฝีมือ จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้น จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือกันแบบทวิภาคีเพื่อพัฒนากำลังแรงงานให้เป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือ มีคุณสมบัติเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ หากกำลังแรงงานของเราเป็นผู้มีทักษะฝีมือและความสามารถ หากเขาทำงานภายในประเทศ ก็จะทำให้อุตสาหกรรมและบริการนั้นมีขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือแม้ว่าเขาไปทำงานในต่างประเทศก็จะเป็นการส่งออกแรงงานฝีมือ และสร้างรายได้กลับมายังประเทศของเรา

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของอาเซียนได้การมีความร่วมมือด้านแรงงาน โดยการให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชนของแรงงานด้วยการไม่สนับสนุนการค้าแรงงานเด็ก ต่อต้านการกดขี่แรงงาน การร่วมมือกันปราบปรามการค้ามนุษย์ นอกจากนี้อาเซียนยังเน้นการขจัดความยากจน การเพิ่มการจ้างงานที่มีผลผลิตที่สูงขึ้นและการคุ้มครองกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมมือกันและได้รับการสนับสนุนจากองค์การระหว่างประเทศและองค์กรเอกชนต่างๆ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นจุดมุ่งหมายหลักประการหนึ่งของประชาคมอาเซียนในการยกระดับความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง เช่น ปัญหาความยากจน แรงงาน สิ่งเสพติด  สิ่งแวดล้อม  ผู้ด้อยโอกาส โรคติดต่อ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ประชากรอาเซียนอยู่ในสังคมที่มีความแข็งแกร่งมีจริยธรรมและธรรมาภิบาล และดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , , | Comments Off on การส่งเสริมและพัฒนาด้านฝีมือแรงงานเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

การปฏิบัติตนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

การปฏิบัติตนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศได้มีบทบาทที่สำคัญต่อวิถีชีวิตและสังคมของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศได้สร้างการ เปลี่ยนแปลงและโอกาสให้แก่องค์การ เช่นเปลี่ยนโครงสร้างความสัมพันธ์และการแข่งขันในอุตสาหกรรม ปรับโครงสร้างการดำเนินงานขององค์การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ เป็นต้นเนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดรูปแบบใหม่ในการติดต่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลทำให้มีการพัฒนาและกระจายตัวของภูมิปัญญา ซึ่งต้องอาศัยบุคคลที่มีความรู้และความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยี โดยที่ผู้บริหารจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับองค์การดังต่อไปนี้
1. ทำความเข้าใจต่อบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อธุรกิจปัจจุบัน
2. ระบบสารสนเทศเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลขององค์การ
3. วางแผนที่จะสร้างและพัฒนาระบบ
การเตรียมงานเพื่อให้การดำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์การประสบความสำเร็จ ควรประกอบด้วยการเตรียมการในด้านต่อไปนี้
1. บุคลากร การเตรียมบุคลากรให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะสร้างและพัฒนา ตลอดจนการใช้งานระบบสารสนเทศเมื่อจัดสร้างเรียบร้อยแล้ว บุคลากรที่ต้องจัดเตรียมควรเป็นทั้งระดับผู้บริหาร นักเทคโนโลยีสารสนเทศ นักวิชาชีพเฉพาะ และพนักงานปฏิบัติการ เพื่อให้มีความรู้ทักษะ และความเข้าใจในขีดความสามารถและศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการจัดฝึกอบรมหรือบรรยายพิเศษ รวมทั้งการสรรหาบุคลากรทางสารสนเทศให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคตของหน่วยงาน
2. งบประมาณ เตรียมกำหนดจำนวนเงินและวางแนวทางในการจัดหาเงินที่จะมาพัฒนาระบบสารสนเทศให้เพียงพอกับแผนที่วางไว้ ตลอดจนจัดทำงบประมาณสำหรับการพัฒนาระบบในอนาคต เนื่องจากเทคโนโลยีขององค์การอาจจะล้าสมัย และสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในระยะเวลาสั้น
3. การวางแผน ผู้บริหารต้องจัดทำแผนการจัดสร้างหรือพัฒนาระบบทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งอาจจะต้องมีการจัดตั้งคณะทำงาน ซึ่งอาจจะประกอบด้วยผู้บริหาร ผู้ใช้ นักออกแบบระบบ และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาปฏิบัติงานร่วมกัน
องค์การที่เจริญเติบโตในอนาคตต้องสามารถประยุกต์เทคโนโลยีเข้าไปในโครงสร้างการบริหารงาน และการติดต่อสื่อสารโดยเทคโนโลยีสารสนเทศเปรียบเสมือนเส้นประสาทของธุรกิจ แต่การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์การจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และบุคลากรมากกว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือการลดขั้นตอนในการทำงาน การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องกับจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on การปฏิบัติตนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต

4

เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีราคาลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้จำนวนผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีเพิ่มขึ้นทุกวัน และได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็น ต่อการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจในปัจจุบัน เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ อินเทอร์เน็ต การประชุมวิดีโอทางไกล ระบบเครือข่าย และระบบสารสนเทศเพื่อการวิเคราะห์และตัดสินใจ เป็นต้น

นอกจากนี้เทคโนโลยีเหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต ดังจะเห็นได้จากเดฟ อุลริช ปรมาจารย์ทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ระบุว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่จะมีบทบาทสำคัญต่อการแข่งขันธุรกิจในอนาคต เช่นเดียวกันกับ คัมมิ่ง และเวอร์รี่ ผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาองค์กรและการบริหารการเปลี่ยนแปลงได้จัดให้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร

เทคโนโลยีที่ใช้กันในปัจจุบันจึงถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล การแก้ไขเปลี่ยนแปลง การเรียกดูข้อมูล การประมวลผล การใช้งานร่วมกันแบบหลายๆ คน และการวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น มีค่าใช้จ่ายต่ำลง เพิ่มคุณค่าและประโยชน์ในการใช้งานข้อมูล และสารสนเทศที่ได้มาจะมีคุณภาพในการนำไปวิเคราะห์และใช้งานมากเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันเทคโนโลยียังสามารถช่วยให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการในการผลิตและการทำงานให้มีต้นทุนที่ต่ำลง ใช้เวลาในการทำงานที่ลดลง และได้สินค้าหรือผลลัพธ์ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรเป็นอย่างยิ่ง

ในปัจจุบันหลายๆ องค์กรให้ความสนใจกับการพัฒนาองค์กร โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร บ้างก็ยุบรวมหน่วยงาน บ้างก็แยกหน่วยงานออกมา บ้างก็ตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมาสนับสนุนและประสานงาน ซึ่งในอดีตเราอาจจะต้องมีทีมงานขึ้นมาทำหน้าที่เป็นพิเศษและต้องใช้เวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่ในปัจจุบันมีซอฟท์แวร์หลายๆ บริษัทที่พัฒนาการใช้งานในด้านของการจัดโครงสร้างองค์กรขึ้นมา โดยให้ผู้บริหารสามารถทดลองปรับเปลี่ยนองค์กรเพียงแค่คลิกเมาท์แล้วไปวางหน่วยงานที่ต้องการไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ข้อมูลต่างๆ ของหน่วยงานนั้นๆ ทั้งหมดก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปทั้งข้อมูลตำแหน่ง ข้อมูลหน่วยงาน และข้อมูลผู้บังคับบัญชาโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้บริหารสามารถประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on เทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้ยังถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในอนาคต

แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ทำงานเป็นทีมด้วยความรักและสามัคคี

13

ความสำเร็จใครก็ต้องการ แต่ความสำเร็จจะรอพึ่งโชคชะตาหรือผู้อื่นคงไม่ได้ ตัวเราเองต่างหากที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะไขว่คว้าความสำเร็จนั้นมาอยู่ในมือ ทองพันชั่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัลไคเซ็น(KAIZEN) ยอดเยี่ยม ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจัดโดยวิศวกรรมสถาน แห่งประเทศไทย ในงานประชุมวิชาการวิศวอุตสาหการแห่งชาติ 2010 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในวันที่ 16-17 ธันวาคม 2553 ในหัวข้อ เทคนิควิศวกรรมอุตสาหการ เพี่อพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน จากการที่ได้พิจารณาการนำเสนอจากทั้งหมด 26 ทีม ผมได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่เหมือนกันของสมาชิกในทุกกลุ่ม ซึ่งผมประทับใจ และคิดว่ามีประโยชน์กับผู้อ่าน ซึ่งสรุปพฤติกรรมหลักๆ ดังต่อไปนี้ พฤติกรรมที่ 1 เป็นคนช่างสังเกต โดยมักจะมองจุดเล็กจุดน้อยเพื่อนำมาปรับปรุงเสมอไม่ยอมปล่อยผ่าน แล้วนำมาเป็นหัวข้อเพื่อนำไปสู่การปรับปรุง โดยคิดว่าดีกว่านี้ได้ไหม เร็วกว่านี้ได้ไหม ประหยัดกว่านี้ได้ไหม สะดวกกว่านี้ได้ไหม ปลอดภัยกว่านี้ได้ไหม มีของเสียน้อยกว่านี้ได้ไหมเป็นต้น

แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นคนช่างสังเกตุฝึกฝนให้เป็นผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบในการปฏิบัติงาน โดยควรหมั่นตรวจสอบเพื่อค้นหาจุดบกพร่อง จุดผิดปกติ หรือสิ่งที่น่าจะเกิดปัญหา หรือความสูญเปล่าต่าง รวมไปถึงจุดที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายพฤติกรรมที่ 2 เป็นผู้ที่มีความตั้งใจ และไม่ย่อท้อ เมื่อเจอปัญหาหรืออุปสรรค ก็ไม่ย่อท้อ ทำแล้วทำอีก แก้ไขแล้ว แก้ไขอีก ไม่ประสบความสำเร็จไม่เลิก ปรับปรุงให้ดีขึ้น ๆ อยู่เสมอ ไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ โดยคิดว่าวันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวานนี้ และวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่มีความตั้งใจ และไม่ย่อท้อ เพื่อฝึกทำงานภายใต้ภาวะกดดัน หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และต้องมีวิน้ยไม่ทอดทิ้งก่อนที่จะดำเนินงานให้บรรลุผลสำเร็จพฤติกรรมที่ 3 ทำงานเป็นทีมเวอร์ค ด้วยความรัก และสามัคคี เพราะต้องช่วยกันเก็บข้อมูล ช่วยกันปรับปรุง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ โดยรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆในทีม ถ้าหากทะเลาะกัน รับรอง ไม่รุ่งแน่นอน ซึ่งนี่ละครับ ไม่เพียงแต่การดำเนินกิจกรรมไคเซ็นเท่านั้น กิจกรรมอื่นๆ ก็ต้องอาศัย ความรัก ความเข้าใจ และความสามัคคี ด้วยเช่นกันครับแนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ทำงานเป็นทีมด้วยความรัก และสามัคคีต้องฝึกฝนตนเองให้เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น โดยไม่ยึดเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ ทำงานแบบเป็นพี่ๆ น้องๆ ไม่ใช้อาอารมณ์ หรือนำเรื่องส่วตัวมาปนกับเรื่องงาน มีนำใจ พร้อมช่วยเหลือ และให้อภัยเสมอเมื่อเกิดข้อผิดพลาด แล้วพร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on แนวทางการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ที่ทำงานเป็นทีมด้วยความรักและสามัคคี

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับสูง

13

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Continual Improvement หรือเรียกย่อๆว่าCI สำหรับท่านที่ได้สัมผัสกับระบบบริหารงานคุณภาพมาไม่ว่ามากหรือน้อย จะทราบว่าเป้าหมายของการการทำระบบคือผลดำเนินงานต้องเป็นไปตามที่องค์กรตั้งวัตถุประสงค์ไว้และที่สำคัญคือต้องมีการพัฒนาทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทรัพยากรในส่วนของ software มากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นเวลา ข้อมูล knowledge การมีส่วนร่วมของคนในองค์กร แต่สิ่งที่กล่าวมามีองค์กรจำนวนมากมายที่ประสบความสำเร็จซึ่งหาดูได้ไม่ยากเลย ซึ่งขอสรุปแนวทางการพัฒนาเป็น 3 ส่วน โดยเริ่มจากวัตถุประสงค์การพัฒนา แหล่งข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนา และวิธีการพัฒนาวัตถุประสงค์การพัฒนา และเพิ่มผลผลิตภายในองค์กรขอแยกออกเป็น 5 เรื่อง 5 วิธีการ ที่แตกต่างกัน แต่มีจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกันโดยไล่เรียงตามวัตถุประสงค์ของระบบดังนี้ค่ะ

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Kaizen หรือContinuous Improvement) นวัตกรรม (Innovation) การบริหารคุณภาพที่ทุกคนมีส่วนร่วม (Total Quality Management : TQM) Six Sigma การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐาน ISO 9001 (Continual Improvement) วัตถุประสงค์ของระบบคือ การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากความพยายามอย่างต่อเนื่องค่อยเป็นค่อยไปใน เป้าหมายของ Kaizen หรือ Continuous Improvement คือ การปรับปรุงจากมาตรฐานเดิมที่มีอยู่ให้ดีขึ้น การปรับปรุงการทำงานประจำวันให้ดียิ่งขึ้น การคงสภาพผลการปรับปรุง

ไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษใดๆ ใช้สามัญสำนึก ของพนักงานทุกคนในองค์การ ตั้งแต่ระดับบน จนถึงระดับล่างอาจมีการลงทุนบ้างเพียงเล็กน้อยวัตถุประสงค์ของระบบคือ การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับสูง ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล เป้าหมาย Innovation คือ เพื่อก่อให้เกิดแนวทางการทำงานแบบใหม่ เครื่องจักรแบบใหม่ หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิมเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทันทีทันใดตามความต้องการของตลาดวัตถุประสงค์ขอระบบ คือ การสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน ใช้วิธีการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์ทำสินค้าและบริการให้มีคุณภาพตรงกับใจของลูกค้า และสร้างความพึงพอใจ

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on การพัฒนาอย่างต่อเนื่องต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนระดับสูง

การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

กระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกองค์กรไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ เพราะการอยู่นิ่งเฉยตลอดเวลาก็เปรียบเสมือนการปล่อยให้องค์กรค่อยๆ ล้าสมัยและเสื่อมสภาพไปพร้อมกับกาลเวลาที่ผันผ่าน

หน่วยงานหรือธุรกิจที่ก่อตั้งมาเป็นเวลานาน มักจะได้รับการยอมรับถึงวิธีการบริหารจัดการเพื่อให้ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจ และถูกใช้เป็นต้นแบบในการบริหารงานขององค์กรสมัยใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ต้นแบบจากองค์กรเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเสมอไปสำหรับองค์กรรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากข่าวการล่มสลายขององค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแห่งในระยะเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หรือผลิตภัณฑ์เหล่านั้นค่อยๆ หายไปจากท้องตลาดจากที่เคยอยู่อันดับหนึ่งเสมอมา ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อหรือผู้ผลิตฟิล์มและกล้องถ่ายรูป ซึ่งหากมองผู้นำในปัจจุบันแล้วย้อนกลับไปสัก 5 ปี จะพบว่ามีการเปลี่ยนสลับหน้ากันมาแล้วทั้งสิ้น

สาเหตุที่ทำให้ผลิตภัณฑ์หรือองค์กรเหล่านั้นถูกแซงอันดับขึ้นไปหรือได้รับความนิยมลดน้อยลง ไม่ใช่จากสาเหตุในเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์ไม่ดี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นจากการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกได้ไม่ทัน ซึ่งองค์กรเหล่านี้มักจะมีทรัพยากรและสะสมประสบการณ์ในการผลิตสินค้าคุณภาพมาเป็นเวลานาน แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคของสังคมเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งเทคโนโลยีมีการขยับไปข้างหน้าแบบก้าวกระโดด กอปรกับคนรุ่นใหม่ก็ล้วนแล้วแต่ชื่นชอบกับการติดตามและใช้เทคโนโลยีใหม่เหล่านั้น ดังนั้นคุณภาพและประสบการณ์ที่มีอยู่อาจไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่องค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยก็คือการนำเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาผสมผสานกับผลิตภัณฑ์ของตน เพื่อตอบสนองกับความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า

การคงอยู่ขององค์กรในปัจจุบันนี้ ไม่ได้อาศัยเพียงความรู้ความสามารถและทรัพยากรต่างๆ ภายในขององค์กรเท่านั้น แต่องค์กรจะต้องมีความสามารถในการบริหารการเปลี่ยนแปลง หรือ Change Management ซึ่งคำภาษาอังกฤษสั้นๆ เพียงสองคำนี้ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญระดับโลก ที่ทุกหน่วยงานต่างให้ความสนใจ มีการศึกษาการบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ มีการทำวิจัยและศึกษาในทุกระดับ กระทั่งมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นทางด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงถึงระดับปริญญาเอก

Change Management หรือการบริหารการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เป็นทฤษฎีที่ตายตัวแบบสมการคณิตศาสตร์ แต่การบริหารการเปลี่ยนแปลงเป็นศาสตร์ในการศึกษาปัจจัยต่างๆ ขององค์กรทั้งภายในและภายนอก โดยมีเป้าหมายหลักก็คือ การปรับตัวขององค์กรให้สามารถตอบสนองเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกหรือแม้แต่ปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากภายในองค์กรเองก็ตาม

การบริหารการเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการศึกษาปัจจัยแวดล้อมภายในและภายนอกขององค์กรอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังต้องศึกษาความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กรโดยตรงด้วย อาทิ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือกระแสนิยมของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้นักวิเคราะห์หรือนักบริหารการเปลี่ยนแปลงสามารถมองเห็นภาพรวมและทิศทางซึ่งเป็นภาพใหญ่ของสังคม โดยจะต้องมีการประยุกต์และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้บริการหรือสินค้าขององค์กรเพื่อตอบกระแสความต้องการของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ให้ได้มากที่สุด

ปัจจัยด้านต่างๆ ของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกประเด็น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ซึ่งปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่สำคัญนั้นมีอยู่มากมาย เช่น ปัจจัยภายในในเรื่องโครงสร้างขององค์กรเอง หรือปัจจัยด้านกลยุทธ์หรือแนวทางการดำเนินงานของผู้บริหารในแต่ละยุค หรือหากมองด้านสภาพแวดล้อมภายนอกก็จะมีปัจจัยที่สำคัญอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านวัฒนธรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือแม้แต่ปัจจัยในเรื่องของการเมือง เป็นต้น ซึ่งนักบริหารการเปลี่ยนแปลงจะไม่สามารถทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่งไปได้เลย หากแต่จะต้องรวบรวมและจัดลำดับความสำคัญแล้วพยายามวางแนวทางการรับมือและปรับเปลี่ยนการทำงานขององค์กรให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงที่สุด

หากองค์กรมีขั้นตอนและระบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ดีและรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลานั้นอาจไม่ใช้อุปสรรคในการดำเนินงานขององค์กรอีกต่อไป แต่นั่นคือโอกาสและความก้าวหน้าขององค์กร เมื่อสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าได้ตรงประเด็น ความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องไกลอีกต่อไป แต่เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว สิ่งที่จะลืมไปเสียไม่ได้ก็คือ การบริหารการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา หากหยุดเมื่อไรก็หมายความว่า องค์กรกำลังถอยหลังไปกับเวลาที่ผ่านไปด้วยนั่นเอง

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลสำหรับที่ที่ต้องปรับปรุงเว็บไซต์สู่ตลาดออนไลน์


ตลาดออนไลน์ เป็นการทำตลาดที่มีส่วนผลทางการตลาดเดิมเพียง 4 ด้าน คือ Product, Price, Place, Promotion อยู่แล้ว แต่การตลาดออนไลน์เพิ่มอีก 2 ด้าน คือ Personalization และ Privacy ทั้งนี้เพื่อเป็นการผสมผสานระหว่างการตลาดแบบเดิมที่เพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยี เกิดเป็นองค์ประกอบของตลาดแบบใหม่ สามารถทำให้ธุรกิจออนไลน์เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ช่วยให้เจ้าของกิจการประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น เกี่ยวกับสินค้า เกี่ยวกับพนักงาน และธุรกิจสามารถทำการค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีผู้ใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของธุรกิจจะต้องมีความเข้าใจในตัวสินค้าของตนเอง ช่องทางการประชาสัมพันธ์ การกำหนดเป้าหมายของธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อให้การพัฒนาสื่อตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนผสมทางการตลาดประกอบด้วย
1. ผลิตภัณฑ์ (Product)
ธุรกิจที่มีเว็บไซต์สวยงาม ตื่นตาตื่นใจ แต่ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้ ดังนั้น ผู้ผลิตควรที่จะมีการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของตนเอง ว่ารูปแบบควรเป็นลักษณะใด การใช้ประโยชน์ของสินค้า และกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ซื้อ

2. ราคา (Price)
ธุรกิจจึงควรเน้นการตั้งราคาให้เหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า หมั่นตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่แข่งใกล้เคียง โดยจะต้องคำนึงน้ำหนักของสินค้า ระยะทางการจัดส่งสินค้า จะต้องระบุราคาได้ว่าลูกค้าในแต่ละประเทศถ้ามีการซื้อสินค้าของธุรกิจเรา จะต้องซื้อในราคาเท่าไร เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้กำหนดราคา จะต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตให้รอบครอบ หรือความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะ

3. ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place)
การหาทำเลสำหรับการทำเว็บไซต์ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เปรียบเสมือนกับการตั้งชื่อร้านค้า โดยมีศัพท์ทางอินเทอร์เน็ตเรียกว่า โดเมนเนม (Domain Name) ในทางอินเทอร์เน็ตนั้นไม่มีข้อจำกัดทางกายภาพ ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการเข้าสู่ร้านค้าโดยจดจำชื่อร้าน จึงควรเลือกชื่อที่จดจำได้ง่าย หากมีโอกาสเปิดช่องทางการค้าตามวิธีปกติได้ก็ควรจะทำควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ การมีเว็บไซต์นั้น จะเป็นประโยชน์ต่อการให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ หรือมีการซื้อซ้ำได้

4. การส่งเสริมการขาย (Promotion)
การส่งเสริมการขายบนเว็บไซต์เป็นสิ่งจำ ที่เรียกว่า ป้ายโฆษณาบนเว็บไซต์ (Banner Advertising) มีลักษณะคล้ายสื่อสิ่งพิมพ์ แต่จะแสดงบนเว็บไซต์อื่น เช่น การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์โดยการลงทะเบียนในเว็บไซต์ การประมูลขายสินค้าในเว็บไซต์ การบริการหลังการขายก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสามารถ ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และอาจกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ หรืออาจบอกต่อเพื่อนๆ ให้มาใช้บริการร้านออนไลน์ของผู้ขายต่อไปได้

5. การให้บริการแบบเจาะจง (Personalization)
ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตทำให้เว็บไซต์ที่จัดทำขึ้น สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนได้ สามารถให้บริการแบบเจาะจงกับลูกค้าแต่ละรายได้ และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภท Data Mining ทำการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ในการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งการเสนอขายสินค้าแบบ Cross Sell นอกจากนี้ยังสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปพัฒนาการให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ ด้วยระบบ Call Center ได้อีกทาง

6. การรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy)
เมื่อมีการซื้อขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ซื้อต้องมีการกรอกข้อมูลส่วนตัวของตนส่งไปให้ผู้ขาย ดังนั้น ผู้ขายจะต้องรักษาความลับของข้อมูลเหล่านี้ โดยต้องไม่เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ของลูกค้าก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ดูแลเว็บไซต์จำเป็นต้องสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ว่า ข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกโจรกรรมออกไปได้ โดยผู้ขายจะต้องระบุนโยบายเกี่ยวกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า หรือ Privacy Policy ให้ชัดเจนบนเว็บไซต์ และปฏิบัติตามกฎนั้นอย่างเคร่งครัด

การทำธุรกิจออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ขยายการตลาด ใช้เวลาในการโปรโมทสินค้าได้รวดเร็ว ทำให้ลดระยะเวลาในการโปรโมท เข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ใกล้หรือไกล และที่สำคัญที่สุดประหยัดค่าใช้จ่ายในการโปรโมทเมื่อเปรียบเทียบกับสื่อต่างๆ นำการตลาดออนไลน์ไปใช้ ในธุรกิจของคุณดู

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged , | Comments Off on เหตุผลสำหรับที่ที่ต้องปรับปรุงเว็บไซต์สู่ตลาดออนไลน์

มาตรฐานการพัฒนาเว็บไซต์ ให้ทันสำหรับความก้าวหน้าทางอินเตอร์เน็ต

ในโลกของอินเตอร์เน็ตนั้น การใช้งานเวิลด์ไวด์เว็บ (หรือเรียกสั้นๆ ว่า เว็บ) นับว่าได้รับความนิยมมากที่สุด หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บเป็นผู้ปลุกกระแสการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ขยายตัวจากกลุ่มผู้ใช้งานทางด้านคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้ใช้งานอื่นๆ ในทุกสาขาอาชีพ ในปัจจุบันเว็บกลายเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับวงการธุรกิจและการค้า และยังเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจเกือบทุกประเภทเข้ามามีส่วนร่วม มีการทำการตลาด การโฆษณา การซื้อขาย และแม้แต่การชำระเงินซึ่งก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เว็บจึงกลายเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งของชีวิต ที่เป็นทั้งแหล่งข้อมูล แหล่งให้ความเพลิดเพลิน แหล่งซื้อหาสินค้า และบริการต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน

ในปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั้น ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนนิยมเข้าถึงข้อมูล และการใช้บริการต่างๆในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น และทำให้เกิดการนำเสนอข้อมูล และบริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นในการพัฒนาเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อใช้ในการนำเสนอข้อมูลและบริการ จึงต้องมีมาตรฐานในการพัฒนา เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลนั้นเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรฐานในการพัฒนาเว็บไซต์ ควรจะประกอบไปด้วยมาตรฐานที่เป็นพื้นฐานดังต่อไปนี้
1.เป็นเว็บไซต์ที่สามารถแสดงผลได้กับทุก Web Browser ในปัจจุบัน web browser ได้รับการพัฒนาออกมาอย่างหลากหลาย ผู้ใช้งานย่อมีสิทธิในการเลือกใช้งานได้อย่างอิสระ เพราฉะนั้นผู้พัฒนาเว็บไซต์จึงต้องคำนึงถึงเรื่องการแสดงผลในทุก web browser ด้วย เพื่อให้การแสดงผลในแต่ละ web browser นั้นมีการแสดงผลที่เหมือน หรือใกล้เคียงกันมากที่สุด
2. เป็นเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Web Accessibility) ซึ่งมีข้อกำหนดของ W3C ที่เรียกว่า WCAG (Web Content Accessibility Guidelines = คำแนะนำในการพัฒนาเว็บไซต์ให้ทุกคนเข้าถึง) เพื่อทำให้การพัฒนาเว็บไซต์สามารถรองรับการใช้งานของทุกกลุ่มคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั้งกลุ่มของคนปกติ และกลุ่มคนพิการ ซึ่งยังต้องการหาข้อมูล และความรู้เหมือนคนปกติ
3. เป็นเว็บไซต์ที่มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้ XHTML โดยที่ XHTML เป็น ภาษามาร์คอัพ ที่มีความคล้ายคลึงกับภาษา HTML แต่จะมีความเข้มงวดในเรื่องโครงสร้างภาษา (syntax) มากกว่า
การตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้ XHTML
4. เป็นเว็บไซต์ที่มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้งาน CSS โดยที่ CSS (Cascading Style Sheet) นั้นจะเป็นตัวที่ช่วยให้การควบคุมการแสดงผลของเว็บไซต์นั้นเป็นไปอย่างอิสระ โดยการแยกส่วนของการแสดงผลออกจากส่วนของเนื้อที่ ทำให้การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแสดงผลนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้น การตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของ W3C ในเรื่องของการใช้ CSS
5. เป็นเว็บไซต์ที่สามารถดูได้จากอุปกรณ์ที่หลากหลาย ในปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่คอมพิวเตอร์เท่านั้น PDA และโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ เพราะฉะนั้นในการสร้างเว็บไซต์เราจึงจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงการแสดงผลบนอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย

การสร้างเว็บไซต์ในปัจจุบันไม่ได้คำนึงถึงแต่ความสวยงามเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เว็บไซต์ที่ดียังจะต้องประกอบด้วยมาตรฐานต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้วอีกด้วย

Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged | Comments Off on มาตรฐานการพัฒนาเว็บไซต์ ให้ทันสำหรับความก้าวหน้าทางอินเตอร์เน็ต

การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตกับการท่องเที่ยว

ปัจจุบันการท่องเที่ยวมีความสำคัญมากขึ้นจนเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีมากกว่าผู้ให้บริการการท่องเที่ยว พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมีการใช้อินเตอร์เน็ตในการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็เปลี่ยนมาให้บริการทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น พอสรุปถึงผลกระทบของอินเตอร์เน็ตต่อการท่องเที่ยวใน 3 ประการ คือ การวางแผนท่องเที่ยว เพราะ นักท่องเที่ยวมีแหลงข้อมูลจำนวนมากในอินเตอร์เน็ตที่สามารถนำมาใช้ประกอบในการวางแผนการท่องเที่ยวและตัดสินใจเลือกท่องเที่ยวจากการเปรียบเทียบข้อมูลท่องเที่ยวในอินเตอร์เน็ต และตัดสินใจซื้อรายการท่องเที่ยวผ่านอินเตอร์เน็ตในรูปแบบที่เรียกว่า พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวสามารถโต้ตอบกับผู้ประกอบการและสร้างเนื้อหาการท่องเที่ยวใส่กลับไปในอินเตอร์เน็ตเพื่อเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อีกด้วย ทำให้เกิดสังคม ชุมชนท่องเที่ยวที่มีข้อมูลมหาศาล บริการนักท่องเที่ยวในทุกๆ เรื่องที่ต้องการ เช่น ข้อมูลโรงแรม ข้อมูลการเดินทาง ข้อมูลร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งข้อมูลความพึงพอใจ ในการใช้บริหารของการท่องเที่ยวที่ได้ไปมาแล้วเพื่อแจ้งให้กับนักเดินทางคนต่อไป

การค้า อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการติดต่อซื้อขายสินค้า และทำให้เกิดการค้าในรูปแบบของ พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น Helmut Berger และคณะได้กล่าวถึงการท่องเที่ยวว่าเป็นผู้นำตลาดในการพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์แบบ B2C เห็นได้จากจำนวนการขายแบบออนไลน์เพิ่มสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องคงที่เช่น การเดินทาง ขนส่ง ที่พัก เป็นต้น โครงสร้างของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อินเตอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรมไปนักท่องเที่ยวไม่ต้องติดต่อบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเพื่อการท่องเที่ยวอีกแล้ว เนื่องจาก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น มีข้อมูลแบบ real time ที่มีทั้งภาพ เสียง รายละเอียดข้อมูลทุกอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการนำเสนอข้อมูล ราคาที่ถูกกว่าเพราะไม่ต้องผ่านบริษัทตัวแทน ได้ลูกจำนวนมากกว่า และสามารถติดต่อโดยตรงกับนักท่องเที่ยว Roman Egger และ Dimitrios Buhalis ได้กล่าวถึงปัจจัยที่องค์กรการท่องเที่ยวจะต้องปรับเปลี่ยนนำเอา ICT มาใช้เพื่อทำให้เกิดความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น สามารถบริหารจัดการบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในเครือข่ายได้ และปรับใช้เพื่อความได้เปรียบกับคู่แข่ง

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กร กระบวนการดำเนินธุรกิจ การทำงานภายใน การเปลี่ยนแปลงบทบาททางธุรกิจ ความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้ขายเปลี่ยนแปลงการนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงการจ้างงานการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กร การพัฒนาด้านอินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการปฏิวัติโครงสร้างของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและมีผลกระทบต่อตัวกลางการท่องเที่ยวโดยตรง เพราะผู้จัดหาสินค้าบริการท่องเที่ยวสามารถขายตรงไปยังผู้บริโภค ตัวกลางที่เชื่อมโยงระหว่างผู้บริโภคและผู้จัดหาต้องเผชิญกับปัญหาการตัดตัวกลางหรือถูกทดแทนด้วยตัวกลางออนไลน์

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Off on การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศทางอินเตอร์เน็ตกับการท่องเที่ยว